โรคเบาหวาน: พฤษภาคม 2015

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เบาหวาน โรคเบาหวาน สารสกัดจากเปลือกสน สรรพคุณของสารสกัดจากเปลือกสน และลิฟเวล ( LIFVEL)

สารสกัดจากเปลือกสน ใน ลิฟเวล ( LIFVEL)

สารสกัดที่ได้จากเปลือกสน (Pine Bark Extract) คือ โปรเเอนโธชัยยานิดีน (Oligomeric Proanthocyanidin Complexes - OPC) หรือพิกโนจีนอล (Pycnogenol) เป็นสารที่มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (Super Antioxidation) เเละยังเสริมฤทธิ์การทำงานของวิตามิน C เเละวิตามิน E ช่วยป้องกันร่างกายจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา รวมทั้งปัจจัยภายนอกต่างๆ อันเป็นสาเหตุของความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น หลอดเลือด หัวใจ ดวงตา ผิวหนัง และระบบประสาท เป็นต้น

สรรพคุณของสารสกัดจากเปลือกสน

1. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดขอด เเละการอุดตันของลิ่มเลือด โดยจะเข้าไปเสริมความเเข็งเเรงของหลอดเลือด ทำให้เกิดความยืดหยุ่น ไม่เปราะเเละเเตกร้าว

2. ในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน อัมพาต ยังช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้มากขึ้น

3. ช่วยลดภาวะเเทรกซ้อนจากการติดเชื้อ เเขนขาลีบเเละกล้ามเนื้ออ่อนเเรงอีกด้วย

4. ช่วยแก้ปัญหาฝ้า เเละผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัยได้ โดยจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เเละไปยับยั้งการทำงานของเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ ทำให้ผิวเนียนเรียบเเข็งเเรงเเละยืดหยุ่นได้ดีขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ

5. ลดภาวะความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งที่ผิวหนัง เนื่องจากเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงนั่งเอง

ุ6. เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ต่อต้านอนุมูลอิสระ ดูแลไม่ให้เซลเสื่อมสภาพเร็วและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยให้เซลล์ร่างกายมีอายุยืนยาวขึ้น

ลิฟเวล ( LIFVEL) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้

ผลิตภัณฑ์ ลิฟเวล ( LIFVEL) สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล

ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 แคปซูล ราคา 1,900 บาท

สั่งสินค้าคลิกที่นี้

ดูข้อมูลที่ http://lifvelsaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

คุณ สายบัว บุญหมื่น โทร. 088 415 3926

ID Line : bua300908

อีเมล์ sboonmuen@gmail.com

เบาหวาน โรคเบาหวาน โคเอ็มไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) และลิฟเวล ( LIFVEL)

โคเอ็มไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) ใน ลิฟเวล ( LIFVEL)

โคเอ็มไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) หรือ CoQ10 เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นเองได้และมีความจำเป็นต่อร่างกาย พบได้ในทุกเซลล์ของร่างกาย จัดเป็นสารจำพวกวิตามิน หรือคล้ายวิตามิน มีโครงสร้างเหมือนวิตามิน K มีคุณสมบัติในการละลายในไขมัน มีบทบาทในการเพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานในร่างกาย

คุณสมบัติของโคเอ็มไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)

1. โคเอ็มไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) ไม่ได้ให้พลังงานแก่ร่างกายโดยตรง แต่เป็นสารสำคัญในการสังเคราะห์ Adeno-sinetriphosphate (ATP) ซึ่งเปรียบได้กับขุมพลังงานของเซลล์ทั่วร่างกาย โดย โคเอ็มไซม์คิวเท็น ทำหน้าที่เป็นตัวร่วมจุดประกาย การเกิดปฏิกิริยาเคมีที่สำคัญในกระบวนการสร้างพลังงานของ Mitochondria แห่งเซลล์ของกล้ามเนื้อ

2. มีบทบาทสำคัญในการขนส่งอิเล็กตรอนใน Mitochondria และการสร้าง Adrenosine triphosphate (ATP) โคเอ็มไซม์คิวเทนพบมากในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง ซึ่งจะมีจำนวน Mitochondrial มาก เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต และตับอ่อน

3. ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น ถ้าหากขาด โคเอ็มไซม์คิวเท็น กล้ามเนื้อหัวใจจะอ่อนแรงลงและทำงานได้ไม่ดี ทำให้มีการใช้โคเอ็มไซม์คิวเท็น เกี่ยวกับการช่วยบำรุงหัวใจอย่างกว้างขวาง ถ้าให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพโคเอ็มไซม์คิวเท็นก็เปรียบเสมือนหัวเทียน ที่คอยจุดประกายให้เครื่องยนต์ทำงานได้นั่นเอง
4. ช่วยลดริ้วรอยและชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง

5. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถลดริ้วรอยและชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ปัจจุบัน โคเอ็มไซม์คิวเท็น จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องที่ช่วยในการลดริ้วรอย
6. ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนังที่ได้รับจากแสงแดด กล่าวคือ ผิวหนังมีหน้าที่ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ เชื้อโรค สารพิษโดยรังสีอุลตราไวโอเลต มี 2 ชนิด คือ UVA และ UVB แต่ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดริ้วรอยจะเป็นรังสี UVA โดย UVA สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังถึงชั้นหนังแท้ และเริ่มต้นในการผลิตอนุมูลอิสระ โดยผลิตจากกระบวนการออกซิเดชั่น (Oxidation) และอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นก็จะทำอันตรายต่อไขมัน โปรตีน และสารพันธุกรรม (DNA) ในเซลล์ผิวหนัง รวมถึงการทำลายของคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังแห้ง ดูไม่มีน้ำมีนวล และเกิดริ้วรอย หมองคล้ำได้
แต่ร่างกายเรามีกระบวนการป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระดังกล่าวโดยกระบวนการทางธรรมชาติ โดยที่ผิวหนังคนเราจะมีสารที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดชั่น (Antioxidant) เช่น วิตามินอี วิตามินซี โดยสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระดังกล่าวจะป้องกันไม่ให้เกิดกระบวนการออกซิเดชั่นที่จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งจะทำอันตรายต่อผิวหนัง
จากผลงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของ โคเอ็มไซม์คิวเทน ต่อการลดริ้วรอย พบว่า โคเอ็มไซม์คิวเท็นสามารถทำให้ความลึกของริ้วรอยลดลง ซึ่งหมายถึง ทำให้ริ้วรอยนั้นตื้นขึ้นได้นั่นเอง
โคเอ็มไซม์คิวเทน พบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ไข่ ถั่วเปลือกแข็ง งา ข้าวกล้อง และ เครื่องในสัตว์

ประโยชน์ของโคเอ็มไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)

1. สารเพิ่มพลังงาน
- เป็นสารสำคัญที่มีส่วนร่วมในการผลิตพลังงานให้กับเซลล์
- เพิ่มความทนทานแข็งแรงให้กับเซลล์ และช่วยลดความอ่อนล้าของร่างกาย
- ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง แข็งแรง ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
2. ระบบหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ
- ใช้ป้องกันอาการหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure) ที่เกิดจากการคั่งของเลือด
- ลดความเหนียวและการเกาะตัวของไขมันบนผนังหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น

3. ความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง (High Blood Pressure) ที่เกิดจากการแข็งตัวของเส้นเลือด (Atherosclerosis) ของอวัยวะต่างๆ จนทำให้ผนังหลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น

4. กล้ามเนื้อหัวใจ
- เพิ่มประสิทธิภาพของการนำออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อหัวใจที่ขาดเลือด โดยช่วยลดความตึงของการหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจในภาวะขาดออกซิเจน
- การทำงานของหัวใจดีขึ้นและเพิ่มการสูบฉีดใหม่ไปยังหัวใจ (Re-Perfusion)
- กระตุ้นการสร้างพลังงานในไมโตรคอนเดรียของกล้ามเนื้อหัวใจ
- ช่วยป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายด้วยอนุมูลอิสระ จึงทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง

5. โรคมะเร็ง
- ลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็งเนื้อเยื่อต่างๆ เช่นมะเร็งเม็ดเลือดขาว (LuKemia), มะเร็งก้อนเนื้อ (Tumor)
- ช่วยลดอาการข้างเคียงที่เกิดจากเคมีบำบัด (Chemotherapy) ในมะเร็งผู้ป่วยด้วย
6. แผลในระบบทางเดินอาหาร
- ช่วยส่งเสริมกระบวนการซ่อมแซมของเซลล์ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะแผลในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือในลำไส้เล็กส่วนดูโอดีนั่ม (Duodenum)
7. ระบบภูมิคุ้มกัน
- ช่วยส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น (Enchance Immune)
- ช่วยให้เม็ดเลือดขาวกำจัดเชื้อโรคได้ดีขึ้น
8. เหงือกและฟัน
- ช่วยลดปัญหาของโรคเหลือกและฟัน
9. เบาหวาน
- ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

10. กล้ามเนื้อตาย
- ลดความเสี่ยงต่อภาวะเซลล์กล้ามเนื้อตาย (Muscular Degeneration) เนื่องจากการทำงานหนัก และมีสารตกค้างที่เกิดจากกระบวนการเมตาบอลิซึมในระหว่างการทำงาน

11. ผิวหนัง
- ช่วยเสริมสร้างพลังงานระดับเซลล์ผิว
- ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสตินจากรังสี UVA ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรง
- เป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ และปกป้องคอลลาเจนจากการถูกทำลายให้สูญเสียโครงสร้างและความยืดหยุ่น
- ช่วยลดเลือนและป้องกันไม่ให้เกิดรอยเหี่ยวย่น
- ปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีความสัมพันธ์กับวิตามิน อี ในการป้องกันเซลล์ผิวจากปฏิกิริยา Lipid Peroxidation ซึ่งเป็นสาเหตุของกระแก่ (Age Granule) จึงทำให้ผิวสดใสมีชีวิตชีวา
12. ป้องกันหมันในชาย
- ช่วยให้ Sperm แข็งแรงขึ้น

13. โรคอ้วน
- มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ ซึ่งทำให้น้ำหนักลดลงได้

ทำไมเราจึงควรได้รับโคเอ็มไซม์คิวเทน (CoQ10) เพิ่มขึ้น เมื่อเราอายุมากขึ้น
ร่างกายสามารถสังเคราะห์ โคเอ็มไซม์คิวเทน ได้เอง แต่ความสามารถนี้จะลดลง เมื่ออายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป โดยที่ปริมาณที่ร่างกายเราต้องการ โคเอ็มไซม์คิวเทน ในแต่ละวันกลับไม่ลดลง ดังนั้น เรารับประทานโคเอ็มไซม์คิวเทนเพิ่มเป็นอาหารเสริม ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดปริมาณ โคเอ็มไซม์คิวเทน มาตรฐานที่ร่างกายต้องการต่อหนึ่งวัน แต่ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า ขนาดที่ควรรับประทานเพื่อจุดประสงค์เป็นอาหารเสริม คือ 30 – 90 มิลลิกรรมต่อวัน

โคเอ็มไซม์คิวเทน 126 มิลลิกรัม มีอยู่ใน ผลิตภัณฑ์ ลิฟเวล (LIFVEL)

ลิฟเวล (LIFVEL) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้

ผลิตภัณฑ์ ลิฟเวล ( LIFVEL) สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล

เบาหวาน โรคเบาหวาน แปะก๊วย ประโยชน์ของแปะก๊วย และลิฟเวล ( LIFVEL)

แปะก๊วย ใน ลิฟเวล ( LIFVEL)

แปะก๊วย หรือ กิงโกะ หรือ ต้นเมเดนแฮร์ หรือ ต้นขนนิ่ม (maidenhair tree) ซึ่งสันนิษฐานว่ามาจากรูปทรงของใบที่เหมือนกันใบของเฟิร์นที่มีขนนิ่มชื่อเดียวกัน หรือ เรียกว่า ต้นสี่สิบมงกุฎทอง (หมายถึงว่ามีราคาแพง) ของชาวฝรั่งเศส หรือ "หยาเจียว"ในภาษาจีน แปลว่าตีนเป็ดจากลักษณะใบ (นกเป็ดน้ำเป็นสัญลักษณ์ดีหมายถึงความรักของในจีน และในญี่ปุ่น) หรือ "ไป๋กั่ว" ในสำเนียงจีนกลาง (จีน: 白果) ซึ่งแปลว่า "ลูกขาว" ต่อมามีการเรียกชื่อผลของมันว่า ลูกไม้สีเงิน หรือ ลูกไม้สีขาว เนื่องจากผลจะมีสีเงิน และ สีขาว ส่วนภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า อิโจว มีรากจากคำว่าตีนเป็ด หรือ คินนัน ซึ่งมีรากความหมายคล้ายกับในภาษาจีนคือ "ลูกไม้สีเงิน" ส่วนชื่ออื่น ๆ ที่มีผู้เรียก เช่น "ต้นไม้แห่งความหวัง" "แพนด้าแห่งอาณาจักรพืช" "ต้นไม้อิสรภาพ"

แปะก๊วย เป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดจากทางตะวันออกของประเทศจีน (แถบภูเขาด้านตะวันตกของนครเซี่ยงไฮ้) ที่มีการแยกต้นเป็นเพศผู้ และเพศเมีย ใบมีลักษณะคล้ายใบพัด แยกออกเป็น 2 กลีบพบว่ามีการนำเข้าไปปลูกในประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับการเผยแผ่ศาสนาพุทธนิกายเซน เมื่อประมาณ ช่วงราวค.ศ. 1300 หรือสมัยคามากุระมีลักษณะพิเศษคือจะผลัดใบไม่พร้อมกันทุกต้น แต่เมื่อผลัดใบ ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วร่วงหล่นทั้งต้นภายในไม่กี่วัน

สรรพคุณของใบแปะก๊วย

1. มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Free radical) ในบริเวณตา ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานขึ้นตาได้

2. เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปสู่สมอง ปลายมือปลายเท้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เพราะเมื่อสมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ย่อมเสื่อมสมรรถภาพและฝ่อไปในที่สุด ส่งผลต่อการทำงานและประสิทธิภาพของสมอง ทำให้เกิดการหลงลืมในผู้สูงอายุ หรือโรคความจำเสื่อมที่เรียกว่า อัลไซเมอร์ (Alzheimer disease)

3. รักษาโรคสมองเสื่อม โดยการนำสารสกัดจากใบแปะก๊วยมารวมกับสารอื่น ๆ เช่น สารสกัดจากเปลือกสน เลซิติน เลซิติน โคเอมไซม์คิวเท็น และโคลีน ช่วยให้การดูดซับที่ผนังลำไส้เล็กดีขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถนำเอาสารสกัดจากใบแปะก๊วยนี้มาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น

ประโยชน์ของแปะก๊วย

1. สารสกัดจากใบแปะก๊วย เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ
2. ช่วยชะลอความแก่ชราและป้องกันโรคมะเร็งได้
3. ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดีอีกด้วย ทำให้มีก๊าซออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง หัวใจ และอวัยวะต่างๆ ตามร่างกาย
4. ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคสมองเสื่อมได้
5. ช่วยในเรื่องของการเพิ่มสมาธิและช่วยเพิ่มความจำ ความคิดได้ดี
6. ช่วยให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์มีพัฒนาการรับรู้และเข้าสังคมได้ดีขึ้นด้วย
7. ช่วยต้านโรคซึมเศร้าอย่างได้ผลสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป
8. ช่วยลดอาการตะคริวหรือการเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ
9. ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ เสียงดังในหู หรือหูอื้อลงได้
10. ช่วยบรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ดี หรือจะเรียกว่าเป็นไวอะกร้าชั้นดีจากธรรมชาติเลยก็ว่าได้
11. ช่วยป้องกันและรักษาโรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อมได้

12. ช่วยป้องกันโรคเบาหวานขึ้นตาได้
13. ช่วยป้องกันการหดตัวของกล้ามเนื้อหลอดลมในผู้ป่วยโรคหอบหืด การรับประทานใบแปะก๊วย

Livitanutrics ขอแนะนำ อาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน คือ ลิฟเวล (LIFVEL) ลดน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงปกติ ป้องกันโรคแทรกซ้อนในระยะยาวได้อีกด้วย เนื่องจาก ลิฟเวลมีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ลดสาเหตุโรคเบาหวานเพราะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และโครเมียม พิโคลิเนตที่มีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในปริมาณสูง

ผลิตภัณฑ์ ลิฟเวล ( LIFVEL) สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล

เบาหวาน โรคเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด และลิฟเวล ( LIFVEL)

เบาหวาน และ ลิฟเวล ( LIFVEL)

ลิฟเวล ( LIFVEL) เหมาะมากที่เป็นอาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน เพราะมีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ลดสาเหตุโรคเบาหวานเพราะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และโครเมียม พิโคลิเนตที่มีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในปริมาณสูง และยังสามารถเข้าไปลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยเผาผลาญแป้งและน้ำตาล ทำให้ลดความเสี่ยงและบรรเทาอาหารของผู้เป็นเบาหวานได้อย่างดี

สารสำคัญในลิฟเวล ( LIFVEL)

1.สารสกัดใบแปะก๊วย ช่วยในการไหลเวียนของเลือด ขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิตสูง

2.เบต้า-กลูแคน กระตุ้นให้ร่างกายเพิ่มระดับภูมิต้านทานให้สูงขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ จึงไม่ทำให้เจ็บป่วยง่ายและยังลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งได้อีกด้วย
3.โครเมียม พิโคลิเนต สารสกัดตัวนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำมาเป็นสารสำคัญในการทำอาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน เพราะเป็นสารที่ช่วยเร่งการเผาผลาญอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล โดยลดปริมาณกลูโคสที่มากเกินความจำเป็นที่อยู่ในกระแสเลือดและกระตุ้นการทำงานของอินซูลีน ให้นำน้ำตาลกลูโคสจากกระแสเลือดเข้าสู่เซล และเมื่อทำงานร่วมกับสังกะสี วิตามินซี และแกมมาโอไรซานอลจะช่วยลดความเสี่ยงและบรรเทาโรคเบาหวาน

4. โคเอมไซม์คิวเท็น เป็นวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย ลดและดูแลอนุมูลอิสระแก่ร่างกาย ลดความเครียด ลดความเสี่ยงการเกิดเบาหวาน และช่วยลดความอ้วนได้ด้วย
5.สารสกัดจากเปลือกสน เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ต่อต้านอนุมูลอิสระ ดูแลไม่ให้เซลเสื่อมสภาพเร็วและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยให้เซลล์ร่างกายมีอายุยืนยาวขึ้น

6.เลซิติน ช่วยควบคุมระดับคอเรสเตอรอล ลดความเสี่ยงจากการอุดตันของเส้นเลือด และความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ

3. สารสกัดชาเขียว ยับยั้งการพัฒนาของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยให้เซลล์ร่างกายมีอายุยืนยาว
3.โคลีน ช่วยในด้านการสร้างสารสื่อสมอง

ลิฟเวล ( LIFVEL) ป้องกันการเกิดอาการเบื้องต้นของโรคเบาหวาน และลดสาเหตุโรคเบาหวานเพราะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และโครเมียม พิโคลิเนตที่มีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในปริมาณสูง

ผลิตภัณฑ์ ลิฟเวล ( LIFVEL) สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล

เบาหวาน โรคเบาหวาน โรคไตจากเบาหวาน ทำไมเบาหวาน จึงลงไต และลิฟเวล ( LIFVEL)

ทำไมเบาหวาน จึงลงไต

ในปัจจุบันประเทศไทยมีคนป่วยเป็น “โรคเบาหวาน” ประมาณร้อยละ 9.6 ของประชากรผู้ใหญ่ เฉลี่ยอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป และโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาทางสาธารณสุขของประเทศไทย เนื่องจากทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งระยะเฉียบพลัน และเรื้อรังที่ก่อให้เกิดอัตราเจ็บป่วยและอัตราเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 95 เป็น “เบาหวานลงไต” หรือโรคไตจากเบาหวาน ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวาน

อาการของ “เบาหวานลงไต” หรือโรคไตจากเบาหวาน

1. มีภาวะโปรตีนชนิดอัลบูมิน (Albumine) รั่วออกมาในปัสสาวะ ซึ่งในระยะแรกมีปริมาณเล็กน้อย และต่อมาปริมาณมากขึ้น
2. มีความดันโลหิตสูง

3. การทำงานของไต ในระยะแรกจะปกติ ต่อมาจะเริ่มเสื่อม และเสื่อมมากขึ้นจนเกิดโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายในที่สุด

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด“เบาหวานลงไต”

1. ระยะเวลาของการเป็นเบาหวานมานาน
2. มีประวัติครอบครัวของโรคไตจากเบาหวาน หรือไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย หรือความดันโลหิตสูง
3. การควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี

4. การควบคุมระดับความดันโลหิตสูงได้ไม่ดี
5. ภาวะไขมันในเลือดสูง
6. มีโปรตีนชนิดอัลบูมินรั่วออกทางปัสสาวะมากกว่าปกติ
7. การสูบบุหรี่

การป้องกันและการรักษา“เบาหวานลงไต”

1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับดี

2. ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งในข้อนี้มีการแนะนำเกี่ยวกับกลุ่มของยาลดความดันโลหิตที่สามารถเลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่ง หรือใช้ร่วมกัน หากไม่มีข้อห้าม และควรมีการปรึกษาแพทย์

3. ผู้ป่วยเบาหวานที่มีอัลบูมินในปัสสาวะ และ/หรือมีภาวะความดันโลหิตสูงต้องได้รับการรักษา ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท เพื่อช่วยชะลอการเสื่อมของไต

4. ควรให้รับคำแนะนำและการรักษาปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อย่างเหมาะสม ได้แก่ การควบคุมระดับไขมันในเลือด การควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และงดสูบบุหรี่

5. ควรได้รับการดูแลรักษาเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เช่น จำกัดปริมาณโปรตีนในอาหารให้เหมาะสม

ลิฟเวล ( LIFVEL) เหมาะมากที่เป็นอาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน เพราะสามารถเข้าไปลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยเผาผลาญแป้งและน้ำตาล ทำให้ลดความเสี่ยงและบรรเทาอาหารของผู้เป็นเบาหวานได้อย่างดี เนื่องจาก ลิฟเวล ( LIFVEL) มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ลดสาเหตุโรคเบาหวานเพราะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และโครเมียม พิโคลิเนตที่มีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในปริมาณสูง

ผลิตภัณฑ์ ลิฟเวล ( LIFVEL) สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล